”สาวหน้าตาดียอมแต่งงานกับ ชายขาเป๋ เพื่อนำเงินมารักษาแม่ ก่อนเข้าห้องคลอดถึงได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของสามี ปาดน้ำตาทันที


”สาวหน้าตาดียอมแต่งงานกับ ชายขาเป๋ เพื่อนำเงินมารักษาแม่ ก่อนเข้าห้องคลอดถึงได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของสามี ปาดน้ำตาทันที

”สาวหน้าตาดียอมแต่งงานกับ ชายขาเป๋ เพื่อนำเงินมารักษาแม่ ก่อนเข้าห้องคลอดถึงได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของสามี ปาดน้ำตาทันที

”สาวหน้าตาดียอมแต่งงานกับ ชายขาเป๋ เพื่อนำเงินมารักษาแม่ ก่อนเข้าห้องคลอดถึงได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของสามี ปาดน้ำตาทันที


”สาวหน้าตาดียอมแต่งงานกับ ชายขาเป๋ เพื่อนำเงินมารักษาแม่ ก่อนเข้าห้องคลอดถึงได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของสามี ปาดน้ำตาทันที

”สาวหน้าตาดียอมแต่งงานกับ ชายขาเป๋ เพื่อนำเงินมารักษาแม่ ก่อนเข้าห้องคลอดถึงได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของสามี ปาดน้ำตาทันที

”สาวหน้าตาดียอมแต่งงานกับ ชายขาเป๋ เพื่อนำเงินมารักษาแม่ ก่อนเข้าห้องคลอดถึงได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของสามี ปาดน้ำตาทันที


”สาวหน้าตาดียอมแต่งงานกับ ชายขาเป๋ เพื่อนำเงินมารักษาแม่ ก่อนเข้าห้องคลอดถึงได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของสามี ปาดน้ำตาทันที

”สาวหน้าตาดียอมแต่งงานกับ ชายขาเป๋ เพื่อนำเงินมารักษาแม่ ก่อนเข้าห้องคลอดถึงได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของสามี ปาดน้ำตาทันที

”สาวหน้าตาดียอมแต่งงานกับ ชายขาเป๋ เพื่อนำเงินมารักษาแม่ ก่อนเข้าห้องคลอดถึงได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของสามี ปาดน้ำตาทันที


”สาวหน้าตาดียอมแต่งงานกับ ชายขาเป๋ เพื่อนำเงินมารักษาแม่ ก่อนเข้าห้องคลอดถึงได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของสามี ปาดน้ำตาทันที

สาวหน้าตาดียอมแต่งงานกับ ชายขาเป๋ เพื่อนำเงินมารักษาแม่ ก่อนเข้าห้องคลอดถึงได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของสามี ปาดน้ำตาทันที!

เพื่อเราแม่ไม่แต่งงานใหม่ แม่ทำงานบนที่ดินไม่กี่ไร่เพื่อส่งเสียให้เราเรียนหนังสือ ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยปีแรกเราสอบไม่ติด แม่บอกให้เรารอสอบใหม่ แต่เราไม่ยอม เราจะไม่ยอมเห็นแม่ทำงานลำบากเพื่อเราอีกแล้ว

เราเรียนรู้งานตามอินเตอร์เน็ต รับงานมาทำต่างๆนานา พริบตาเดียวก็ผ่านไป 3 ปี งานเราเข้าที่เข้าทาง เดือนๆนึงหลังจากใช้แล้วก็มีเก็บอีกเป็นหมื่น แต่คาดไม่ถึงว่าแม่จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตับ แม่ไม่อยากไปโรงพยาบาล แกอยากนอนรอความตายอยู่ที่บ้าน แต่เราไม่ยอมยืนกรานจะพาแกไปโรง

พยาบาลให้ได้ แล้วเงินเก็บของเราก็ถูกใช้หมดไปอย่างรวดเร็ว แต่อาการของแม่ยังจำเป็นต้องทำเคมีบำบัดต่อ ซึ่งยังต้องใช้เงินอีกมาก เรากระวนกระวายไม่เป็นอันทำอะไร ตอนนั้นเองที่คุณป้าข้างบ้านก็บอกว่าแกมีญาติห่างๆที่ร่ำรวย แต่ขาเขาเดินไม่สะดวก กำลังอยากแต่งงานครั้งที่สอง แกถามเราว่าอยากแต่งไหม ถ้าได้แกมั่นใจว่าสินสอดไม่ใช่ปัญหาแน่ๆ

เราไม่มีทางเลือก เลยไปพบเขา คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะชอบเรา แต่เขาไม่เพียงแต่ร่างกายพิการ ขากะเผลก อายุยังปาไปตั้ง 41 ปีแล้ว ให้พูดตามตรงเรารู้สึกลังเลเล็กน้อย แต่เขารับปากว่าถ้าเรายอมแต่งงานกับเขา เขาจะดีกับเรา แถมเขาจะออกเงินรักษาแม่เราด้วย จะให้สินสอด 3 ล้าน! ได้ยินว่า 3 ล้านใจเราก็เต้นแรง แม่ทุ่มเทเพื่อเรามามากมาย และเป็นญาติเพียงคนเดียวของเรา เพื่อแม่เราควรจะแต่งงานกับเขาใช่มั้ย?

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเราก็แต่งงานกัน หลังแต่งงานเรายุ่งอยู่กับการดูแลแม่ที่โรงพยาบาล สามีจัดการให้แม่ได้พักในห้องพัก VIP แถมยังจ้างแม่บ้านมาดูแลทำอาหารให้เรากับแม่กิน เพื่อจะให้แม่เจ็บปวดน้อยลงก็ให้แกได้ใช้ยาที่อิมพอร์ตมาจากเมืองนอก พูดกันตามตรงแล้ว เราซาบซึ้งมาก

แต่ก็ยังรั้งชีวิตแม่ไว้ไม่ได้ ผ่านไปปีครึ่งแม่ก็จากไป หลังจัดงานศพแม่เสร็จ เราก็รู้สึกว่างเปล่า เราไม่เหลือใครแล้ว เราเป็นลมล้มลงเนื่องจากไม่ได้นอนหลับเพียงพอมาหลายวัน เมื่อตื่นขึ้นมาเราก็เห็นว่าสามีนั่งอยู่ข้างๆ จับมือเราไว้ บอกเราว่าต้องเข้มแข็ง

​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​เรายังมีเขาอยู่ แถมเขายังบอกเราว่าตอนที่พาเรามาส่งโรงพยาบาลแล้วตรวจร่างกายก็พบว่าเราตั้งท้องแล้ว บอกให้เราดูแลตัวเองดีๆ

ภายใต้การดูแลของสามี เพื่อลูกที่อยู่ในท้อง เราเข้มแข็งขึ้น จนเราเจ็บท้องคลอดลูก สามีก็รีบพาเราส่งโรงพยาบาลด้วยความตื่นเต้น เขาเข้ามาในห้องคลอดกับเราและก็ทำสิ่งหนึ่ง เขาเรียกคุณหมอมา

แล้วก็บอกหมอว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นให้รักษาแม่เด็กไว้ก่อน วินาทีนั้นเราซึ้งจนน้ำตาไหล เราคิดว่าเขาคงเป็นเทวดาที่แม่ส่งมาดูแลเรา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *